สารอาหารกับความงาม

สารอาหารที่เกี่ยวข้องกับความงาม

  1. วิตามินเอ เป็นสารอาหารที่สำคัญต่อการสร้างเซลล์ผิวหนัง ผลิตเหงื่อและน้ำมันได้ตามปกติ และช่วยสร้างภูมิต้านทาน ดังนั้น การขาดวิตามินเอ จะส่งผลให้เห็นได้ชัดเจนในช่วงเวลาอันสั้น โดยแสดงอาการให้เห็นจาการมีผิวตะปุ่มตะป่ำที่เกิดจากคราบเซลล์ตาย เนื่องจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังทำงานน้อยลง  ทำให้รูขุมขนตีบ ผิวเป็นจุดด่างดำ เกิดสิว ผิวเป็นริ้วรอย แห้งแตกผิวหนังใต้ต้นแขน ข้อศอก เช่า ก้น และขา จะหดตัว เกิดเป็นริ้วรอย ผิวหนังโดยรวมไม่แข็งแรงทำให้เกิดตุ่มใส ฝี หนอง และแผลพุพองได้ง่าย                                                                                                                                                                                                                                                                                                         นอกจากนี้ วิตามินเอยังมีความสำคัญต่อดวงตาโดยตรง ประการแรก คือ ช่วยให้มองเห็นในที่ที่มีแสงสว่างน้อย ตามปกติคนเราเมื่อเข้าไปที่มืด เราจะมองไม่เห็นชั่วขณะ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก สายตาของเราจะค่อยๆ ปรับให้เรามองเห็นได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งหากขาดวิตามินเอแล้วการปรับตัวดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น หรือหากขาดไปนานๆ อาจทำให้เราเกิดอาการตาแห้ง และถ้าอาการรุนแรงขึ้นจะทำให้ดวงตาของเราโปนหรือถลนออกมามากกว่าปกติ และท้ายที่สุดอาจทำให้ตาบอดได้ ในด้านสุขภาพของเส้นผม การขาดวิตามินเอ จะทำให้เส้นผมแห้งกรอบ หนังศีรษะแห้งจนเกิดรังแค เส้นผมขาดน้ำหนัก แตกปลาย และอาจร่วงได้มาก ส่วนเล็บจะทำให้เล็บซีด บาง เปราะ และหักง่าย
  2. วิตามินบี 1,2,3,5,6,12                                                                                                                                                                             

2.1 วิตามินบี 1 หากขาดจะทำให้ผิวพรรรซีดเซียว แตกแห้ง เกิดรอยย่น

2.2 วิตามินบี 2 มีหน้าที่โดยตรงในการล้างพิษอันเกิดจากอนุมูลอิสระนั่นหมายความว่า เมื่อวิตามินบี 2 มากก็จะมีอนุมูนอิสระน้อย เมื่อความเสื่อม หรือโอกาศในการผิดปกติของเซลล์น้อยลง โอกาสที่ร่างกายผิวพรรณ หน้าตาจะเปล่งปลั่งสดใสก็ย่อมมากขึ้น

2.3  วิตามินบี 3 ช่วยให้ผิวหนังเจริญตามปกติมีการสร้างเส้นประสาทและบำรุงรักษาระบบย่อยอาหารให้สมบรูณ์

2.4  วิตามินบี 5 ทำหน้าที่โดยตรงต่อการบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ หากได้รับเพียงพอก็จะทำให้ผมร่วง ผมหงอกน้อยลง นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ให้เร็วขึ้น ทำให้แผลหายเร็ว

2.5  วิตามินบี 6 จำเป็นสำหรับสุขภาพผิว และยังเป็นตัวช่วยสร้างสารสีแดงที่ทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปในกระแสเลือดหากขาดจะทำให้เกิดภูมิแพ้ที่ผิวหนัง เกิดผื่นคันง่าย ผิวหนังติดเชื้อง่าย และหยาบกร้าน

2.6  วิตจามินบี 12  หากขาดจะส่งผลให้เกิดอาการอักเสบที่ผิวหนัง และเป็นผื่น รวมทั้งทำให้ผมเสียสภาพ

3.  ไบโอติน  มีบทบาทในการผลิตกรดไขมันที่บำรุงสภาพผิว เส้นประสาท เส้นผม ดังนั้นการได้รับไบโอตินอย่างเพียงพอ จะทำให้มีผิวพรรณปกติ หากขาดไบโอตินไปจะเกิดผดผื่นที่ผิวหนัง ผมขนร่วง รวมถึงหงอกก่อนวัยด้วย

4.  โฟเลต  หรือกรด โฟลิก หากขาดทำให้เกิดอาการผิวหนังอักเสบ เป็นผื่น ริมฝีปากและผิวซีด

5.  วิตามินซี นอกจากจะช่วยต้านอนุมูลซึ่งเป็นสาหตุของความเสื่อมของผิวแล้ว วิตามินซียังช่วยสร้างเนื้อเยื่อที่เรียกว่า “คอลลาเจน” ซึ่งเป็นตัวกำหนดความเรียบตึงของผิว ผลงานวิจัยบ่งชี้ชัดเจนว่า วิตามินซีมีความสัมพันธุ์กับการเกาะเกี่ยวกันของคอลลาเจน ถ้าเนื้อเยื่อเกาะเกี่ยวกันดี ผิวหนังจะเต่งตึง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มันเริ่มไม่เกาะกัน ก็เหมือหนังสติกที่ยืดแล้วไม่ยอมหดกลับ และยานไปเรื่อยๆ จนไม่สวยงาม ดังนั้นวิตามินซีจึงจำเป็นอย่างยิ่งต่อการรักษาความเต่งตึงของผิว

6.  วิตามินอี  มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ และช่วยขัดขวางการจับของออกซิเจนกับไขมัน ซึ่งเกิดเป็นคอลเลสเตอรอล และเมื่อคอลเลสเตอรอลนี้ไปเกาะ อยู่ตามหลอดเลือด มันก็จไปขัดขวางการดูดซึมอาหารหากมีจำนวนมากก็มีอัตรการเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ หากได้รับวิตามินอี ในปริมาณที่เหมาะสม ก็จะทำให้เกิดคอลเลสเตอรอลน้อยลง ร่างกายได้รับสารอาหารดีขึ้น เป็นผลทำให้แก่น้อยลง นั่นเอง

ขณะเดียวกัน เมื่อเลือดในร่างกายไหลเวียนได้ดี ก็ทำให้ผิวหนังเปล่งปลั่ง แบบที่เรียกว่าขาวอมชมพู และไม่เป็นขุลยหรือแตกลอกง่าย

นอกจากนี้วิตามินอี ยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยทำให้ผนังเซลล์อยู่ในสภาวะปกติ บำรุงสุขภาพผิวหนัง ประสาท กล้ามเนื้อ และเม็ดเลือดแดง ซึ่งถ้าขาดจะทำให้ผิวหนังเป็นรอยช้ำได้งาย แผลหายช้า เส้นเลือดดำขอด

7.  แร่ธาตุต่างๆ

7.1  เหล็ก เป็นธาตุสำคัญในการสร้างฮีโมโกลบิน (สารสีแดงในเม็ดเลือด) ช่วยขนส่งออกซิเจน  ไปทั่งร่างกาย และกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากเนื้อเยื่อ การขาดเกิดภาวะโลหิตจางทำให้ออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายไม่เพียงพอ เป็นผลให้เล็บอ่อน เปราะ เปราะ ผมร่วง และผิวซีด

7.2 ซีลีเนียม ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง  ทำให้ผิวดูอ่อนวัย นุ่มนวล และลบรอย

7.3   ซิลิคอน  มีความสำคัญต่อการสร้างกระดูก เอ็น และเสริมความแข็งแรง  ให้กับเนื้อเยื่อ ซึ่งเมื่อเนื้อเยื่อเหล่านี้แข็งแรง จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับเส้นผมและเล็บที่กำลังงอก รวมทั้งทำให้ผิวเต่งตึงและเนียน ช่วยชลอการเกิดรอยตีนกา และลดอัตราการเสื่อมก่อนวัยของผิวหนังได้

7.4  สังกะสี   ถ้าได้รับในปริมาณที่เพียงพอก็จะไม่เกิดสภาวะผมร่วง ถ้าขาดจะทำให้ผิวหนังอ่อนแอ ติดเชื้อง่าย และบางครั้งอาจทำให้เกิดสิว

7.5  ซัลเฟอร์  หรือกำมะถัน มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อสุขภาพความงาม เพราะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายผลิต “เคราทิน   ซึ่งเป็นโปรตีนที่สำคัญต่อสุขภาพผม  และผิวหนัง   และเคราตินยังแทรกอยู่ทุกเซลล์ในร่างกาย ทำหน้าที่ในการสร้างกระดูกอ่อน สร้างเอ็นยึดติดกล้ามเนื้อกับกระดูก ดังนั้นการได้รับกำมะถันอย่างเพียงพอจะช่วยให้ผล และผิว แข็งแรง

  7.6  ทองแดง จะช่วยสร้างกรดอะมิโนที่มีผลต่อเม็ดสีผิว และเส้นผม

7.7  แมงกานีส   เป็นเกลือแร่ที่จำเป็นในการสร้างคอลลาเจน ช่วยนำโปรตีนจากอาหารมาใช้ และช่วยในการสร้างฮอร์โมนเพศ หากขาดจะทำให้แผลหายช้าและผิวหนังเป็นผื่น

7.8  แมกนีเซียม  มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและรักษากระดูกและฟันให้แข็งแรง และช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวแมกนีเซียมเกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาเคมีของเอนไซม์กว่า 300 ชนิดในร่างกายช่วยปลดปล่อยพลังงานจากอาหาร และช่วยป้องกันผนังเซลล์

8.  กรดไขมันจำเป็น โอเมก้า 3 , 6 และ เป็นกรดไขมันที่ร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้ จำเป็นต้องอาศัยการบริโภค ซึ่งร่ายกายต้องนำมาใช้เพื่อเพิ่มความสมดุล ความแข็งแรง รวมทั้งการเจริญเติบโต และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเซลล์ต่างๆ การรีบประทานไขมันอย่างเหมาะจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ช่วยในการกักเก็บน้ำในร่างกาย ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และเป็นตัวช่วยให้วิตามินที่ละลายในน้ำมั ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย

9.  โปรตีน  จำเป็นต่อเซลล์ทุกส่วนในร่างกาย รวมทั้งเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับ ผม ผิว และเล็บ ถ้าร่างกายได้รับโปรตีนไม่เพียงพอจะไม่สามารถสร้างเส้นผมและคอลลาเจนใหม่ได้ นอกจากนี้ยังช่วยรักษาสมดุลของน้ำในหลอดเลือด เนื้อเยื่อและเซลล์ รวมถึง สมดุลของกรด-ด่างในร่างกาย ดังนั้น ควรรับประทานโปรตีนให้เพียงพอ อย่างไรก็ตามปริมาณโปรตีนที่มากเกินไป ทำให้แคลเซียมในร่างกายสลายมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อความแข็งแรงของกระดูกและเล็บได้

10. น้ำบริสุทธิ์  ช่วยสร้างความเปล่งปลั่งให้ผิวพรรณ รวมทั้งช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ช่วยนำวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารไปเลี้ยงสว่นต่างๆ ของร่างกาย ดังนั้น ควรได้รับอย่างเพียงพอ คือ 2 ลิตรต่อวัน ซึ่งช่วยให้เส้นผม ผิวพรรณ และดวงตาไม่แห้งกร้าน

 

 

ที่มา : พัทยา อนุสสร.  2551.  Beauty drink  สูตรอร่อยเพิ่มสวย. สำนักพิมพ์เวลาดี : กรงเทพฯ.

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *