เดือนภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษทั้ง 12 เดือน

มาแล้วจ้า สำหรับคำศัพท์เดือนภาษาอังกฤษทั้ง 12 เดือนที่น้องๆกำลังคนหา มาพร้อมกับคำอ่าน เพื่อให้จำคำศัพท์ได้ง่ายๆ และคำแปล ความหมายของชื่อเดือนทั้ง 12 เดือน ทั้งเดือนที่เป็นภาษาอังกฤษ และ เดือนที่เป็นภาษาไทย เรียงตามลำดับตั้งแต่เดือนที่ 1 – 12

ที่คำศัพท์คำอ่านคำแปล
1Januaryแจ๊นยุอะริเดือนมกราคม
2Februaryเฟ๊บบุอะริเดือนกุมภาพันธ์
3Marchมาชเดือนมีนาคม
4Aprilเอ๊พรัลเดือนเมษายน
5Mayเมเดือนพฤษภาคม
6Juneจูนเดือนมิถุนายน
7Julyจุล๊ายเดือนกรกฎาคม
8Augustออกัสทเดือนสิงหาคม
9Septemberเซ็พเท็มเบอะเดือนกันยายน
10Octoberอ็อคโท๊เบอะเดือนตุลาคม
11Novemberโนเว๊มเบอะเดือนพฤศจิกายน
12Decemberดิเซ๊มเบอะเดือนธันวาคม

หรือถ้าหากน้องๆ อยากจะดาวน์โหลดเดือนภาษาอังกฤษ ไปแปะข้างฝา หรือ เอาไว้ท่อง พี่ก็ได้เตรียมเป็นรูปภาพตารางเดือนทั้งปีแบบสวยๆไวให้โหลด สามารถดาวน์โหลดได้จากลิงก์ด้านล่างนี้ได้เลยนะจ๊ะ

12 เดือน ภาษาอังกฤษ
12 เดือน ภาษาอังกฤษ

ถ้าเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์กับเพื่อนๆของเรา อย่าลืมกดแชร์ เพื่อให้เพื่อนๆได้ความรู้ และจำเดือนภาษาอังกฤษได้แม่นๆ แถมยังเป็นการให้กำลังใจให้เราหาบทความดีๆ และสาระความรู้ใหม่ๆมาฝากอีกด้วย
นอกจากชื่อเดือนของแต่ละเดือนเป็นภาษาอังกฤษแล้ว วันนี้เราจะพามารู้จักที่มาที่ไปของแต่ละเดือนกัน มาดูกันว่าที่มาของชื่อเดือนภาษาอังกฤษทั้ง 12 เดือนนั้นมีที่มายังไง

ที่มาของชื่อเดือนภาษาอังกฤษทั้ง 12 เดือน

ถ้าหากนับเดือนตามแบบฉบับของยุคโรมันโบราณ (Ancient Roman) เมื่อประมาณ 753 ปี ก่อนคริสต์กาล ยุคนั้นนับเดือนมีนาคมหรือ March เป็นเดือนแรกของปี
1. เดือนมีนาคม (March) นักประวัติศาสตร์เชื่อว่า March มีที่มาจากคำว่า Martius  ซึ่งคือเทพเจ้าแห่งสงคราม (God of War) ซึ่งชาวโรมันนับถือบูชา
2. เดือนเมษายน (April)  ที่มาของ April ยังไม่ชัดเจน นักประวัติศาสตร์คาดว่าอาจมีที่มาจาก Aphrodite เทพเจ้าแห่งความรัก, ความงาม (Goddess of Love and Beauty) หรืออาจมาจากคำว่า  Aperire ซึ่งหมายถึงการเปิดหรือการผลิบานของดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ
3. เดือนพฤษภาคม (May)  นักประวัติศาสตร์เชื่อว่า May มีที่มาจากคำว่า Maia ซึ่งคือเทพเจ้าแห่งการเพาะปลูกของชาวโรมัน
4. เดือนมิถุนายน (June)  นักประวัติศาสตร์เชื่อว่า June มีที่มาจากคำว่า Juno ซึ่งคือเทพเจ้าแห่งคู่ครองหรือกามเทพของชาวโรมันโบราณ ซึ่งนิยมแต่งงานในเดือนนี้
ถัดจาก 4 เดือนแรกไป ชาวโรมันโบราณจะเรียกชื่อเดือนด้วยตัวเลข
5. เดือนกรกฎาคม (July)  หรือเดือน 5 ของชาวโรมันโบราณเดิมชื่อเดือน Quintilis (ซึ่งหมายถึง 5) แต่เปลี่ยนมาเป็น July เมื่อ 43 ปีก่อนคริสต์ศักราช ตามชื่อของ Julius Caesar จักรพรรดิ์ผู้ทรงอำนาจของอาณาจักรโรมัน
6. เดือนสิงหาคม (August) หรือเดือน 6 ของชาวโรมันโบราณเดิมชื่อเดือน Sextillia (ซึ่งหมายถึง 6) แต่เปลี่ยนมาเป็น August  ตามชื่อของ Augustus Caesar เมื่อ 8 ปีก่อนคริสต์ศักราช
7. เดือนกันยายน (September) หรือเดือน 7 ของชาวโรมันโบราณ มีที่มาจาก Septem ในภาษาลาติน (ซึ่งหมายถึง 7)
8. เดือนตุลาคม (October) หรือเดือน 8 ของชาวโรมันโบราณ มีที่มาจาก Octo ในภาษาลาติน (ซึ่งหมายถึง 8)
9. เดือนพฤศจิกายน (November) หรือเดือน 9 ของชาวโรมันโบราณ มีที่มาจาก Novem ในภาษาลาติน (ซึ่งหมายถึง 9)
10. เดือนธันวาคม (December) หรือเดือน 10 ของชาวโรมันโบราณมีที่มาจากภาษาลาติน Decem  (ซึ่งหมายถึง 10)
11. เดือนมกราคม (January) ในยุคเริ่มต้นของ Ancient Roman  ในแต่ละปีมีเพียง 10 เดือนเท่านั้น จนกระทั่ง Numa Pompilius กษัตริย์ของ Ancient Roman ทรงเพิ่มเดือนมกราคม (January) เป็นเดือนที่ 11  มีที่มาจากชื่อเทพเจ้า Janus
12. เดือนกุมภาพันธ์ (February) Numa Pompilius ทรงเพิ่มเดือนสุดท้ายของปีซึ่งจะตรงกับเทศกาล Februa  เพื่อเฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาถึง และเป็นที่มาของชื่อเดือนกุมภาพันธ์ (February) ในปัจจุบัน

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *